เป้าหมายหนึ่งของคนทุกคนที่เหมือนกันโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนก็คือการได้มีชื่อเป็นเจ้าของบ้านที่ชอบในทำเลที่ต้องการสักหลัง ซึ่งแน่นอนว่าการจ่ายด้วยเงินจำนวนก้อนโตคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการเป็นเจ้าของบ้าน เพราะใครจะไปรู้ล่วงหน้าว่าจะมีความต้องการใช้เงินทำสิ่งอื่น ๆ ที่จำเป็นวันไหน การ ผ่อนบ้านกับธนาคาร จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคนที่อยากจะมีบ้าน ดังนั้นเราจะมาแชร์วิธีการเตรียมตัวผ่อนบ้านด้วยการบริหาร ดอกเบี้ยกู้บ้าน กู้ร่วมคือให้ผ่อนบ้านได้หมดเร็ว ๆ กัน
การ ผ่อนบ้านกับธนาคาร หมายถึง การยื่นเอกสารเพื่อขอ กู้เงินทำบ้าน กับธนาคาร โดยผู้กู้ให้สัญญาว่าจะมีการชำระหนี้ ดอกเบี้ยบ้าน เป็นงวด ๆ เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเงินแต่ละงวดที่จ่ายให้กับธนาคารจะแบ่งเป็นการชำระหนี้เงินต้นที่กู้ยืมมากับการชำระหนี้ ดอกเบี้ยกู้บ้าน ไปจนครบจำนวนเงินที่ขอกู้ไว้กับธนาคาร จากนั้นจึงจะสามารถโอนชื่อเจ้าของบ้านจากชื่อธนาคารเป็นชื่อของผู้กู้ได้ วิธีนี้เป็นวิธีการที่ดีสำหรับคนที่มีรายได้ประจำ เพราะสามารถแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งออกมา คำนวณสินเชื่อบ้าน เพื่อชำระหนี้ในแต่ละเดือนได้ แต่ทั้งนี้จะต้องมีวินัยในการผ่อนชำระหนี้กับธนาคารด้วย มีวิธีผ่อนบ้านที่นิยมกันดังนี้
- จ่ายค่างวดกับธนาคารเกินกว่าจำนวนที่กำหนดต่อเดือนทุกงวด เพราะอย่างที่กล่าวมาข้างต้นคือการชำระหนี้ กู้เงินทำบ้าน กับธนาคารในแต่ละเดือนจะประกอบด้วยการชำระหนี้เงินต้นกับการชำระ ดอกเบี้ยบ้าน นั่นหมายถึงแต่ละครั้งที่มีการชำระเงินที่มากกว่าที่ต้องจ่ายประจำทุกเดือน จำนวนที่เกินมานั้นจะถูกนำไปหักออกจากเงินต้นที่กู้ยืมมา ส่งผลให้หนี้เงินต้นจะค่อย ๆ ลดลงเป็นลำดับ เช่น ต้องผ่อนหนี้เดือนละ 10,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 ปี ถ้าสามารถชำระหนี้กับธนาคารได้เดือนละ 20,000 บาท ก็จะทำให้เวลาผ่อนหนี้ลดลงเหลือ 9-10 ปี เท่านั้น
- รีบโปะเพิ่มในช่วงที่ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ต่ำ ตามปกติแล้วเมื่อมีการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารจะคิด อัตราดอกเบี้ยบ้าน ในช่วง 3 ปีแรกต่ำสุด นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่หากมีการจ่ายค่างวดบ้านได้มากกว่าจำนวนเงินที่ต้องจ่ายต่องวดในแต่ละเดือน จะส่งผลให้เงินต้นที่กู้ยืมมามีจำนวนลดลงเป็นลำดับ แถมยังจ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติอีกด้วย ส่วนในปีต่อ ๆ ไปนั้นหากยังมีกำลังทรัพย์เพียงพอก็ให้ชำระค่างวดมากกว่าปกติต่อไป จะกลายเป็นว่าเงินต้นก็ค่อย ๆ ลดลง และผ่อนบ้านสั้นกว่าเดิมได้ด้วย
- การปรับโครงสร้างหนี้หลังจากปีที่ 3 ของการชำระหนี้สินเชื่อบ้าน เพราะจะเป็นช่วงระยะเวลาที่ดอกเบี้ยบ้านจะสูงขึ้น ทำให้ค่างวดที่จ่ายไปเป็นการชำระดอกเบี้ยเสียส่วนใหญ่โดยที่เงินต้นไม่ได้ลดลงมากนัก โดยมีอยู่ 2 วิธีคือ
- รีไฟแนนซ์บ้านคือหมายถึงการไปกู้ยืมเงินจากธนาคารใหม่เพื่อนำเงินมาโปะหนี้กับธนาคารที่เดิมแล้วผ่อนชำระหนี้กับที่ใหม่แทน ซึ่งธนาคารใหม่อาจจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าที่เดิมก็ได้ จึงเป็นทางเลือกที่ทำให้ลดภาระการผ่อนบ้านได้มากขึ้น
- รีเทนชัน (Retention) หมายถึงการขอปรับอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมสำหรับผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีมาโดยตลอด ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายกว่าการทำรีไฟแนนซ์
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการไหน ก็ล้วนช่วยให้การผ่อนบ้านผ่อนคอนโดกับธนาคารหมดเร็วขึ้นได้ และหากสามารถทำควบคู่กันได้ ก็จะยิ่งทำให้ได้เป็นเจ้าของบ้านเร็วขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับวินัยในการผ่อนชำระหนี้และต้องมีความแม่นยำในการ คำนวณสินเชื่อบ้าน ด้วย กล่าวคือมีเงินพอชำระหนี้ได้โดยยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย